มีอาสนะโยคะอยู่หลายท่าเลยที่ตั้งชื่อขึ้นตามชื่อสัตว์หรือสรรพสิ่งต่าง ๆ ที่มีอยู่ตามธรรมชาติ ซึ่งนอกจากจะเป็นการบ่งบอกว่าอาสนะดูคล้ายสิ่งนั้นแล้ว บางท่าก็ให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าขณะที่เราทำท่านั้นอยู่เราได้กลายเป็นสิ่งนั้นหรือสัตว์ชนิดนั้นไปด้วย

Tree Pose หรือ Vrksasana หรือท่าต้นไม้ก็เป็นอาสนะที่ให้ความรู้สึกแบบนั้น คือทำแล้วเรากลายเป็นดั่งไม้ใหญ่ที่หยั่งรากลึกมั่นคงลงสู่ผืนดินไปพร้อมกับงอกงามขึ้นสู่ท้องฟ้า ความรู้สึกเช่นนี้สามารถนำไปปรับใช้ได้กับอาสนะยืนขาเดียวได้อีกหลายท่า Tree Pose จึงเป็นเหมือนอาสนะรากฐานก่อนที่จะต่อยอดไปฝึกยืนขาเดียวในท่าอื่น ๆ ต่อไป

รากแก้ว

ขาข้างเดียวที่ยืนอยู่นั้นเปรียบดั่งลำต้นที่แข็งแรง นั่นหมายความว่ากล้ามเนื้อรอบ ๆ ขาควรจะร่วมกันทำงานเพื่อสร้างความแข็งแรงนั้นขึ้นมา อีกทั้งยังเป็นการปกป้องข้อต่อหัวเข่าไปด้วยในตัว

กล้ามเนื้อรอบ ๆ ขาก็ได้แก่กล้ามเนื้อด้านหน้าและด้านหลัง ด้านในและด้านนอกของขา กล้ามเนื้อต้นขาด้านหน้าหรือ Quadriceps นั้นไม่ยากเท่าไรนัก เราสามารถสั่งการมันได้ง่าย ๆ โดยการเกร็งมันได้โดยตรง แต่ในส่วนของกล้ามเนื้อด้านหลัง ด้านในและด้านนอกของขานั้น เราอาจจะต้องมีเทคนิคเพิ่มเติมนิดหน่อย

ลำต้นจะแข็งแรงได้ก็ต้องมีการหยั่งรากแก้วลงลึกสู่ผืนดิน ซึ่งอวัยวะที่จะเข้ามาทำหน้าที่นี้ก็คือเท้าของเรานั่นเอง โดยทั่วไปหากเราเกร็งกล้ามเนื้อต้นขามากเกินไป น้ำหนักจะถ่ายมาอยู่ที่ส้นเท้ามากขึ้น ดังนั้น ให้สร้างสมดุลโดยการถ่ายน้ำหนักกลับไปที่ปลายเท้าด้วยการกดจมูกเท้าลงพื้นให้แน่น ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลังและน่องขึ้นมาให้สมดุลกับการทำงานของกล้ามเนื้อต้นขาด้านหน้าและหน้าแข้ง

นอกจากนี้ให้เราสร้างสมดุลให้กับกล้ามเนื้อต้นขาด้านในและด้านนอกด้วยการยึดขอบเท้าด้านนอกให้ประกบติดพื้นไว้ ในขณะเดียวกันก็ให้กดโคนนิ้วหัวแม่เท้าลงพื้นให้แน่น การออกแรงทั้งสองอย่างนี้จะให้ความรู้สึกเหมือนยกส่วนโค้งใต้เท้าซึ่งอยู่ทางขอบเท้าด้านในขึ้นจากพื้น และเป็นการกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อขาหนีบไปพร้อม ๆ กับกล้ามเนื้อต้นขาและสะโพกด้านนอก

ส่วนเท้าบนที่ประกบอยู่กับต้นขาด้านในของขาอีกข้างนั้น ให้ออกแรงกดแบบเดียวกันกับเท้าล่าง ซึ่งหากเราสร้างลำต้นได้แข็งแรงพอ เราจะสามารถรู้สึกถึงแรงดันของขาหนีบกับฝ่าเท้าที่ดันประกบกันเบา ๆ ด้วยกำลังที่สมดุลกัน ซึ่งนอกจากจะช่วยสร้างสมดุลของเชิงกรานให้ตั้งตรงได้แล้ว ยังเป็นการช่วยเปิดข้อต่อสะโพก ช่วยให้เข่าชี้ออกไปทางด้านข้างได้อีกด้วย

เมื่อรากมั่นคง ลำต้นแข็งแรงแล้ว เรือนยอดของต้นไม้ก็พร้อมจะแผ่กิ่งก้านได้ต่อไป

แผ่กิ่งก้าน

ข้อดีของการหยั่งรากให้มั่นคงนั้น นอกจากจะได้ขาที่แข็งแรงแล้ว หากลองสังเกตตัวเองให้ดีในขณะที่อยู่ในท่า เราจะพบว่ากล้ามเนื้อแกนกลางของเราก็ถูกกระตุ้นให้ทำงานไปด้วยเช่นเดียวกัน การหยั่งรากลึกจึงเป็นเหมือนการดึงพลังงานจากผืนดินขึ้นมาสู่ลำต้น ให้ไม้ใหญ่พร้อมจะแผ่กิ่งก้านสาขาแตกแขนงออกไป

สิ่งที่ต้องทำต่อไปจึงเหลือแค่เพียงการระวังไม่ดันซี่โครงทิ่มออกมาด้านหน้า การประกบฝ่ามือกลางหน้าอกและออกแรงดันมือเข้าหากันเบา ๆ ก็สามารถช่วยในจุดนี้ได้

และเมื่อมั่นใจว่าขา สะโพก แกนกลาง ลำตัว ทั้งหมดเข้าที่ดีแล้ว แขนก็สามารถกลายเป็นกิ่งก้านที่จะแผ่ออกไปได้ทุกทิศทางอย่างที่ใจเราต้องการ หากต้องการพุ่งขึ้นด้านบนก็ให้กระชับสะบักให้แน่นและยืดเหยียดขึ้นไปจนสุดแขน หากต้องการเพิ่ม Side Bend ก็ให้เริ่มเคลื่อนจากแกนกลางโดยการยืดยกขึ้นมาจากเอวก่อนที่จะค่อย ๆ เอียงลงด้านข้าง หรือจะแตกกิ่งก้านออกด้านข้างง่าย ๆ ก็ด้วยการกางแขนออกและผ่อนไหล่ลงห่างจากใบหู

เมื่อมีรากและลำต้นที่แข็งแรงมั่นคง การเติบโตของต้นไม้ก็มีได้ไม่สิ้นสุดตามแต่ใจของผู้ปลูกจะตัดแต่งกิ่งก้านให้ออกมางดงามเพียงใด